พ.ต.ท.ดร.ภัทร์ หนังสือ

เกิด 25 กุมภาพันธ์ 2512

บ้านเกิด ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

ประวัติการศึกษา

○ จบการศึกษาระดับประถมศึกษา โรงเรียนวัดบางขุนไทร จังหวัดเพชรบุรี
○ จบการศึกษาระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย จากโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี
○ ศึกษาระดับปริญญาตรี โรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่น27)
○ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี รป.บ.(ตร.) จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รุ่น 43)
○ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (นบ.) จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช


○ จบการศึกษาระดับปริญญาโท จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิดา)
○ ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเซาท์ ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย
○ ระดับปริญญาเอก อเมริกัน ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฮิวแมน ไซน์ (Ph.D)
○ ใบประกอบโรคศิลป์ สาขาเภสัชกรรมแผนไทย (ภบ.) และเวชกรรมแผนไทย (พท.ว.) จากกระทรวงสาธารณสุข

ตำแหน่งและหน้าที่การงาน

ประธานกรรมการ บริษัทอีสเทิร์นเฮิร์บ จำกัด

ประธานกรรมการ บริษัทอีสเทิร์นเฮิร์บ จำกัด

ประธานกรรมการ เวชกรโอสถ จำกัด

ประธานกรรมการ เวชกรโอสถ จำกัด

นายกสมาคมวูซู แห่งประเทศไทย

นายกสมาคมวูซู แห่งประเทศไทย

กรรมการ บีเอซี คลีนิค เวชกรรม สุขุมวิท

กรรมการ บีเอซี คลีนิค เวชกรรม สุขุมวิท

รางวัลที่ได้รับ

ตำแหน่งและหน้าที่การงาน

องค์กรดีเด่น

ตำแหน่งและหน้าที่การงาน

คนดีศรีแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๕๐

ตำแหน่งและหน้าที่การงาน

บุคคลตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๕๑

🔥ดร.ภัทร์ ขึ้นรับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 😀

วันที่ 28 มค.65 ดร.ภัทร์ หนังสือ ประธานกรรมการเวชกรโอสถ ได้รับมอบเกียรติบัตร ในการนำองค์ความรู้ ศาสตร์แห่งแผ่นดิน ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ในการผลิตสมุนไพรป้องกันและรักษา covid-19 ก่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าต่อผู้บริโภค จาก ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ดร.ภัทร์  ขึ้นรับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดร.ภัทร์  ขึ้นรับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดร.ภัทร์  ขึ้นรับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดร.ภัทร์  ขึ้นรับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดร.ภัทร์  ขึ้นรับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ความเชี่ยวชาญ

        เป็นแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและตั้งตำรับยาแผนไทยตามทฤษฎีแพทย์แผนไทย โดยมีประสพการณ์ในการผลิตยาสมุนไพรมากว่า 20 ปี มีความรู้ในการนำสมุนไพรมาใช้รักษาโรคอย่างถูกวิธีและได้ผล

โดยเป็นผู้สืบทอดองค์ความรู้จากครูบาอาจารย์แพทย์แผนไทยหลายท่าน

        เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรแปรรูปและสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร โดยเป็นผู้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการแปรรูปเช่น กระบวนการสกัดด้วยฟรีซดราย, อัลตราโซนิเคชั่น, การอบแห้งด้วย microwave vacuum การบดละเอียดสมุนไพรแบบไมโครไฟน์ การใช้ probiotics มาเพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพสารสำคัญ เป็นต้น

        เป็นผู้คิดค้นและพัฒนายาเคอร่า โดยพัฒนาจากตำรับยาครอบไข้ตักศิลา ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ

        เป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมากมาย เช่น น้ำยาบ้วนปากแบมบู, ยาสีฟันแบมบู, บอสนิก้าสเปรย์, ULID น้ำสมุนไพร เป็นต้น


ความเชี่ยวชาญ

กิจกรรมเพื่อสังคม

เป็นผู้บริจาคและสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียนธรรมิกวิทยา (คนตาบอด) อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี อย่างต่อเนื่อง

เป็นผู้บริจาคยาเคอร่า ให้กับคนยากไร้ เจ็บป่วย และชุมชนต่าง ๆ โดยบริจาคมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6,000,000 แคปซูล มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

ลงพื้นที่ชุมชน บริจาคยาสมุนไพรเคอร่าให้กับชุมชนต่าง ๆ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด เช่น

  • ชุมชนบึงซำอ้อ ปทุมธานี
  • ชุมชนหนองเสือ ปทุมธานี
  • ชุมชนเคหะลำลูกกา คลองสี่ ปทุมธานี
  • ชุมชนพัชราภา
  • ชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง 22 ชุมชน
  • ชุมชนริมทางด่วนบางนา
  • ชุมชนคลองเตย 28 ชุมชน
  • ชุมชนครัวเหนือ
  • ชุมชนวัดประชาระบือธรรม
  • ชุมชนคลองส้มป่อย
  • ตำบลบางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
  • อำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี
  • ชุมชนประเสริฐอิสลาม
  • ชุมชนเตาปูน (ผ่านคุณชัช เตาปูน)
  • ฯลฯ.

แจกยาฟรีให้กับประชาชนที่ติดเชื้อโควิด 19 และยากไร้ ในช่วงสถานการณ์โควิด 19

ความภาคภูมิใจในชีวิต

การได้มีโอกาสผลิตยาสมุนไพรดี ๆ เพื่อช่วยเหลือคนที่กำลังทนทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตการณ์โควิด19 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ผมได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้คนนับหมื่นนับแสนคนให้รอดพ้นวิกฤติ รวมทั้งได้ช่วยหลายครอบครัวที่กำลังจะขาดเสาหลักให้กลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นปกติสุข ตรงนี้เป็นความสุขและความภูมิใจ
ความภาคภูมิใจในชีวิต

เป้าหมายของชีวิต

ผมไม่มีเป้าหมายในชีวิตใด ๆ ไม่มีสิ่งใดที่ต้องให้ทำเพื่อประสพความสำเร็จอย่างใดอีก สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันทำให้มีความสุขและเพียงพอแล้ว ได้ช่วยเหลือคน ได้แบ่งปัน ได้ทำผลิตภัณฑ์ดี ๆ ให้คนได้ใช้ประโยชน์ก็พอแล้ว
เป้าหมายของชีวิต

ความสนใจด้านการเมือง

ผมไม่มีความสนใจด้านการเมือง ไม่มีเป้าหมายหรืออุดมการณ์ในการจะเป็นนักการเมือง แต่ผมก็ยังคงอยากให้ประเทศไทยมีผู้บริหารประเทศที่มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ มีศักยภาพในการทำให้ประเทศเจริญรุดหน้า ทำให้ประชาชนมีความสุขและมีเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
ความสนใจด้านการเมือง

คิดว่าอยากจะใช้ชีวิตอย่างไรในอนาคต

ผมชอบความสงบ ชอบธรรมชาติ ชอบอยู่ไร่อยู่สวน ปลูกต้นไม้ ผมมีสวนปลูกสมุนไพร ปลูกกระท่อม ปลูกทุเรียน ขยายพันธ์พืชหายากและใกล้สูญพันธ์ เช่น ต้นจันทน์ที่เอาผลมาทำเป็นลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ต้นพยอม ที่ปลูก 30 กว่าปีจึงจะออกดอกเป็นต้น ไม้พวกนี้ไม่มีใครปลูกเพาะปลูกแล้วไม่ทันใช้ในช่วงชีวิต
ความสนใจด้านการเมือง
ผมอายุเกิน 50 ปีแล้ว คิดว่าตัวเองทำงานมาเกินพอแล้วในช่วงชีวิตของคน ๆ หนึ่ง ทรัพย์สินก็พอมีบ้างไม่ลำบาก เลยคิดว่าจะเกษียณตัวเองจากสิ่งที่เคยทำมาชั่วชีวิตแล้วไปอยู่ไร่อยู่สวน ใช้ชีวิตเสพความสงบกับธรรมชาติ

เอาทุนที่ไหน??
มาบริจาคยามากมายแบบนี้

ความสนใจด้านอื่นๆ

ผมสนใจด้านธรรมะ หนังสือธรรมะที่ชอบมีหลายเล่ม เช่น พุทธรรม ของท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) เล่มนี้ผมอ่านมาตั้งแต่เด็ก เวลาเราอ่านแล้วพอเราผ่านช่วงชีวิตและประสพการณ์ต่าง ๆ เราจะเข้าใจความหมายที่แตกต่างกันออกไป ผมว่ามันน่าสนใจ ผมสนใจด้านธรรมะ
ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็น เป็นหนังสือที่น่าอ่านสำหรับคนสนใจธรรมะนะครับ
หนังสือของท่าน Osho ผมสนใจด้านธรรมะ
งานแปลของท่านพุทธทาสเช่น เว่ยหล่าง, ฮวงโป
ธรรมบรรยายของท่านเขมานันทะ, ท่านเสถียร โพธินันทะ
มีงานแปลหนังสือในสายมหายานที่หาอ่านได้ยาก เช่น ปรัชญาปารมิตาสูตร, สูตรของรินไซ, โลหิตสูตรของท่านโพธิธรรม ซึ่งโลหิตสูตรนี้ผมได้แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย, วิมลเกียรตินิทเทสสูตร เป็นต้น
ผมมองว่า ศาสนาพุทธของเรานั้นเหมือนหัวใจหนึ่งดวง แตกเป็นสองเสี่ยง คือมหายาน และเถรวาท ซึ่งหากเราตามศึกษาทั้งสองทาง เราจะสามารถนำมาประกบกันด้วยตัวเราเอง ซึ่งนั่นจะสร้างความเข้าใจในพุทธศาสนามากขึ้น ศาสนาพุทธของเรานั้นเหมือนหัวใจหนึ่งดวง

อยากฝากอะไร
ไว้กับคนรุ่นหลัง

" ผมเกิดในยุครอยต่อระหว่างสังคมแบบจิตนิยม และวัตถุนิยม แนวความคิดของผู้คนแต่ละยุคนั้นแตกต่างกันด้วยค่านิยมทางสังคม
     ผมมองว่าปัจจุบันเรากำลังสุดขั้วทางด้านวัตถุนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างตัวตนออนไลน์ การโชว์ความร่ำรวยและชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อเป็นสิ่งที่เป็นปกติและแข่งขันกันในสังคมปัจจุบัน แต่สิ่งเหล่านี้ผมมองว่ามันทำให้ชีวิตยากลำบาก ถ้าคุณยิ่งหรูหราฟุ้งเฟ้อ คุณก็ยิ่งมีสิ่งที่ต้องแสวงหาและได้มามากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือความยากลำบากของชีวิต ซึ่งพอมองย้อนกลับเข้าภายในจิตใจ คุณอาจพบแต่ความแห้งแล้ง สับสน ทุกข์ทน เจ็บปวด เศร้าเสียใจ และผิดหวัง
     ผมอาจจะเป็นคนรุ่นเก่าที่มีแนวคิดแตกต่างจากวิถีในสังคมปัจจุบัน แต่ก็อยากจะฝากไว้ว่า หากต้องการหาความสุขที่แท้จริงให้กับชีวิต มันอยู่ในจิตใจคุณทุกขณะที่คุณรู้สึกตัว คือความสุขที่เป็นอิสระและทิ้งทุกสรรพสิ่งแม้แต่ตัวคุณเองหรือใจของคุณเองก็ตาม "

ผมเกิดในยุครอยต่อระหว่างสังคมแบบจิตนิยม